――หลายวันต่อมา หลังเลิกเรียน
ผู้จัดการ: ……มาชวนชั้นมาสำรวจคาเฟ่ที่เพิ่งเปิดใหม่เนี่ยนะ... แน่ใจแล้วเหรอว่าคนที่เหมาะสมคือชั้น, ซุซุกิ?
ซุซุกิ: แน่นอนสิ เพื่อนรัก! ชั้นได้ยินมาว่ามันเป็นที่นิยมช่วงนี้เลยอยากมาลองดูสักครั้ง
ผู้จัดการ: (เขาเป็นเพื่อนที่สนิทกันตั้งแต่สมัยมัธยมต้น ซุซุกิเป็นนักกีฬาในชมรมบาสเกตบอล นิสัยร่าเริง มักจะเป็นศูนย์กลางของคลาสอยู่เสมอ)
ซุซุกิ: แล้วอีกอย่าง การที่มาเที่ยวกับผู้จัดการมันสนุกจะตายไป ไหนจะการ์ตูนที่นายแนะนำให้ชั้นที่ผ่านมาอีก
ผู้จัดการ: (จริงๆ เลยนะ บ่อยครั้งที่ทำให้ชั้นรู้สึกว่าพวกเราอยู่คนละโลกกัน แต่ก็นั่นแหละ เขาเป็นเพื่อนคนหนึ่งในไม่กี่คนที่สนิทกับคนอย่างชั้น)
――ภายในร้าน
ซุซุกิ: โห ตกแต่งร้านโคตรดีเลย! แล้วดูชุดพนักงานสิ น่ารักใช่เล่นเลยนะเนี่ย
ผู้จัดการ: (อื้ม… ขอไม่เถียงก็แล้วกัน... แต่มันทำให้ชั้นรู้สึกไม่เข้ากับที่นี่เลย...! ซุซุกิเนี่ยมาตามร้านแบบนี้บ่อยหรือไง…)
??? : ยินดีต้อนรับค่ะ! สั่งอะไรดีคะ?
ผู้จัดการ: อะ, เอ่อ… ขอโทษครับ! ผมขอเป็น... กาแฟเย็นครับ…
ซูซุมูระ ยู: กาแฟเย็นนะคะ ได้เลยค่ะ…… อะ เอ๊ะ!? นาย... ผู้จัดการคุงใช่ไหม!?
ผู้จัดการ: ไม่ผิดแน่...! เพราะถอดแว่นออกไปเลยจำไม่ได้แวบหนึ่ง...
ซุซุกิ: หา? เกิดอะไรขึ้นเนี่ย? นายรู้จักพนักงานคนนี้ด้วยเหรอ, ผู้จัดการ?
ผู้จัดการ: อื้อ ใช่แล้ว เธออยู่โรงเรียนเดียวกับ――
ซูซุมูระ ยู: เดี๋ยวๆๆๆ เดี๋ยวค่ะ! ขอโทษนะคะ! ขอรบกวนลูกค้าสักครู่ได้ไหมคะ~!?
ผู้จัดการ: หา? ――เฮ้! อย่าดึงสิ! ขอโทษนะ ซุซุกิ! รอแป๊บหนึ่งนะ…!
ซูซุมูระ ยู: จ้องงงง………………
ผู้จัดการ: เอ่อ คือ... อ่า... คะ คงแค่คิดไปเอง... หรือเธออาจเข้าใจผิดก็ได้มั้ง? ฮ่าๆ… ฉันขอตัวไปเข้าห้องน้ำหน่อยนะ
ซูซุมูระ ยู: ห้องน้ำนะคะ! ได้ค่ะ เดี๋ยวฉันพาไปนะคะ~! เชิญทางนี้ค่า~!
ซูซุมูระ ยู: หวุดหวิดไปเลย… เกือบโป๊ะแตกแล้วสิ ผู้จัดการคุงก็ระวังตัวหน่อยนะ
ซูซุมูระ ยู: โรงเรียนเราน่ะห้ามนักเรียนทำงานพิเศษอยู่แล้ว ถ้ามันหลุดไปล่ะก็ จะทำไงหล่ะ…
ผู้จัดการ: อะ… จริงด้วยครับ ขอโทษนะครับ ก็แบบว่า... มันกะทันหันเกินไปเลยตั้งตัวไม่ทัน
ซูซุมูระ ยู: เฮ้อ… ฉันก็ตกใจเหมือนกันนะเนี่ย… หือ? มีอะไรเหรอ ทำไมนายถึงจ้องฉันอยู่แบบนั้น…
ผู้จัดการ: อ่ะ, ขอโทษครับ พอดีเห็นไม่มีแว่นเลยดูแปลกตาไปนิด แล้วก็... รุ่นพี่พูดสำเนียงคันไซน่ะ…
ซูซุมูระ ยู: ...อ๊ะ... แย่แล้วสิ ดันเผลอปล่อยสำเนียงออกมาเต็มๆ เลย...
ซูซุมูระ ยู: ยังไงก็ตาม! เรื่องนี้เดี๋ยวฉันจะอธิบายพรุ่งนี้ แต่วันนี้ช่วยตามน้ำไปหน่อยได้มั้ย? ห้ามบอกใครเด็ดขาดนะ โอเคมั้ย?
ผู้จัดการ: (สุดท้ายแล้ว, พวกเราก็แกล้งทำเป็นว่าจำผิดคนและเล่นละครตบตาไปจนผ่านไปได้อย่างไม่มีปัญหา)
――วันถัดมา ที่ห้องชมรมวรรณกรรม
ซูซุมูระ ยู: งั้น ตอนนี้ขอเปิด "ประชุมไต่สวนความประพฤติจากเหตุการณ์เมื่อวาน" อย่างเป็นทางการค่ะ!
ผู้จัดการ: อะไรกันครับ.... ประชุมไต่สวนเนี่ย มันดูเวอร์ไปหน่อยหรือเปล่าครับ... แล้วอีกอย่าง คนที่ผิดกฎโรงเรียนไปทำงานพาร์ทไทม์เนี่ย ดูเหมือนจะเป็นปัญหามากกว่านะครับ...
ซูซุมูระ ยู: ฉันได้ยินนะ ผู้จัดการคุง... และในเรื่องนี้มันมีเหตุผลอยู่
ซูซุมูระ ยู: จริงๆ แล้ว ฉันเป็นนักแสดงหน้าใหม่ที่ฝึกหัดอยู่ การที่ฉันย้ายมาเรียนที่นี่ก็เพราะเรื่องงานการแสดงนี้แหละ
ผู้จัดการ: …ห๊ะ… นักแสดง!? ไม่ใช่ว่ารุ่นพี่ล้อเล่นหรือ…
ซูซุมูระ ยู: ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นหรอก ฉันไม่ใช่คนที่จะเล่นตลกร้ายๆ แบบนั้น ถ้าไม่เชื่อ นายก็ไปถาม "คานะ" ที่สังกัดอยู่ค่ายเดียวกันกับฉันได้นะ
ผู้จัดการ: อ๋อ… จริงสินะ เพราะแบบนี้พี่ถึงได้เจอกับรุ่นพี่โคจิมะบ่อยๆ...
ซูซุมูระ ยู: ถูกต้อง แล้วเงินที่ได้จากที่บ้านรวมกับงานที่ทำอยู่ตอนนี้มันไม่เพียงพอ ฉันถึงต้องทำงานพิเศษเพิ่มด้วย
ซูซุมูระ ยู: ก็คือ…ทั้งหมดนี้ก็เป็นการเตรียมตัว เพื่อให้ได้ประสบความสำเร็จในฐานะนักแสดงน่ะนะ
ซูซุมูระ ยู: แต่ว่าถ้าโรงเรียนรู้เข้า เรื่องเรียนฉันคงจะยุ่งยาก แล้วก็อาจติดต่อไปที่บริษัทต้นสังกัดอีกด้วย…
ผู้จัดการ: ผมเข้าใจแล้วครับ… รุ่นพี่นี่วิเศษจังเลยนะ มีทั้งความฝันและเป้าหมาย แล้วก็ลงมือทำจริงจัง…
ผู้จัดการ: (ต่างจากฉันที่ใช้ชีวิตไปวันๆ โดยไม่มีทั้งเป้าหมายหรือความฝัน… รุ่นพี่ช่างเป็นคนที่น่าทึ่งมากจริงๆ)
ซูซุมูระ ยู: เพราะอย่างนั้นแหละ ขอร้องล่ะ! เก็บเรื่องนี้เป็นความลับจากโรงเรียนให้หน่อย… นายจะช่วยฉันได้ไหม?
ผู้จัดการ: ก็... แน่นอนครับ ผมจะเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ... อีกอย่าง... ผมเองก็อยากจะเห็นตอนที่รุ่นพี่ได้เป็นนักแสดงที่ประสบความสำเร็จด้วย
ซูซุมูระ ยู: …ฟุฟุ~ ดีมาก! แล้วก็รู้ไว้นะ ว่าคนที่รู้นอกจากคานะซังแล้ว มีแค่นายเท่านั้นที่รู้ว่าฉันตั้งใจจะเป็นนักแสดง
ซูซุมูระ ยู: เรามีความลับร่วมกันแค่สองคนนะ... อื้ม! นี่มันสถานการณ์ที่ทำให้หัวใจเต้นแรงเลยนะ จริงๆ แล้วในใจนายน่าจะดีใจไม่น้อยเลยใช่ไหมล่ะ?
ผู้จัดการ: ...ผมไม่เถียงก็แล้วกันครับ... แต่ว่า ถ้ารุ่นพี่จะล้อผมแบบนี้ละก็ ผมอาจจะเผลอเอาไปบอกคนอื่นได้นะครับ?
ผู้จัดการ: ถ้ารุ่นพี่อยากให้ผมเก็บเรื่องนี้เป็นความลับล่ะก็… เราต้องมีข้อตกลงกันก่อน ผมอยากให้รุ่นพี่เลิกแกล้งผมสักที
ซูซุมูระ ยู: เอ๋~? ทำไมกันล่ะ? นี่มันแค่การสื่อสารเล็กๆ น้อยๆ เองนะ ข้อตกลงแบบนี้ดูไม่ยุติธรรมเลย...
ผู้จัดการ: อาจจะใช่สำหรับรุ่นพี่ แต่สำหรับผมน่ะ... โดนแกล้งบ่อยๆ แล้วมันรู้สึกไม่สบายใจน่ะครับ
ผู้จัดการ: และอีกอย่าง... คนที่ทำผิดกฎโรงเรียนก็คือรุ่นพี่ไม่ใช่เหรอครับ? ยิ่งไปกว่านั้น, รุ่นพี่น่าจะเข้าใจดีว่าตอนนี้ใครอยู่ในสถานะที่เสียเปรียบ... จริงไหมครับ?
ซูซุมูระ ยู: หืม... ตอบโต้กลับมาได้ดีนี่ งั้นฉันจะเอา มังงะเลิฟคอเมดี้แนวติดเรท ที่นายชอบมากที่สุดไปวางบนโต๊ะเรียนของนายดีไหมล่ะ...
ผู้จัดการ: …ขะ... ขอโทษครับ ยอมแล้วครับ ได้โปรดไว้ชีวิตผม ผมจะเก็บความลับให้อย่างดีเลยครับ!
ซูซุมูระ ยู: ฮิๆ ขอบคุณนะ ฉันเชื่อใจนายล่ะ แต่เมื่อวานฉันนี่พลาดจริงๆ เผลอหลุดพูดสำเนียงคันไซซะงั้น…
ซูซุมูระ ยู: ฉันยังไม่ได้บอกสินะ ฉันเป็นคนเกียวโตล่ะ เวลาแสดงละครเลยต้องพูดภาษากลางบ่อยๆ สำเนียงคันไซเลยเก็บเอาไว้ไม่ค่อยได้ใช้
ผู้จัดการ: อ๋อ... อย่างนี้นี่เอง แต่ผมว่าภาษากลางของรุ่นพี่มันดูเป็นธรรมชาติมากเลยนะครับ จนไม่ทันสังเกตเลย แถมเมื่อวานที่รุ่นพี่พูดคันไซยังดูน่ารักอีกต่างหาก
ซูซุมูระ ยู: …น่ะ... น่ารักเหรอ... เอ่อ… ก็ถ้ายังไงการที่ฉันพูดภาษากลางดูเป็นธรรมชาติแล้ว ก็แสดงว่าฉันฝึกสำเร็จแล้วสินะ...
ซูซุมูระ ยู: ...งั้นคงไม่ต้องปิดบังแล้วล่ะ! ถึงจะไม่อยากใช้คันไซที่นี่เพราะมันดูโดดเด่นไปนิด แต่... เฉพาะหน้านาย ฉันจะปลดปล่อยคันไซล่ะกัน! ฟู่~ โล่งใจจัง พูดแบบนี้มันง่ายกว่าเยอะ!
ผู้จัดการ: หืม? แต่ถ้าไม่อยากเด่นใช่มั้ย ก็พูดภาษากลางต่อไปไม่ดีหรือ...
ซูซุมูระ ยู: ฉันบอกแล้วไงว่ามัน “เฉพาะกับนาย” เท่านั้นน่ะ ขนาดนี้ไม่โดดเด่นหรอก แถมฉันก็สบายใจขึ้นด้วย
ซูซุมูระ ยู: แล้วก็... นายก็จะได้ฟังคันไซสุดแรร์นี่ จะว่าไปก็คุ้มสำหรับนายนะ?
ผู้จัดการ: คุ้มเหรอ... ไม่ว่าใช้คันไซหรือภาษากลาง ผมไม่ได้คิดอะไรมากหรอกครับ เพราะมันก็คือรุ่นพี่อยู่ดี…
ผู้จัดการ: (แต่... ถ้าจะพูดตรงๆ คือรุ่นพี่รู้สึกว่าสามารถเป็นตัวของตัวเองต่อหน้าผมได้... ถ้าอย่างนั้นก็... ผมก็คงเป็นคนที่รุ่นพี่ไว้ใจแล้วสินะ)
ซูซุมูระ ยู: เล่นตัวไปเถอะ~ แต่จริงๆ แล้วลึกๆ นายดีใจอยู่ใช่ไหมล่ะ~?
ผู้จัดการ: มะ- ไม่! อย่าแกล้งผมเลยครับ...!
ผู้จัดการ: (ก็อย่างที่รุ่นพี่บอก... ผมก็คงรู้สึกดีใจจริงๆ นั่นแหละ...)