ตอนที่ 1
――มัธยมปลายปีที่สอง เดือนกันยายน
ผู้จัดการ: (ชมรมวรรณกรรมของโรงเรียนนี้มีสมาชิกหกคน แต่เกือบทั้งหมดเป็นสมาชิกที่ไม่มีตัวตน ดังนั้นห้องชมรมจึงว่างเสมอ)
ผู้จัดการ: (เวลาที่ผมซึ่งเป็นโอตาคุตัวยงจะได้ซึมซับผลงานอย่างสบายใจ... หรือก็คิดว่าจะเป็นแบบนั้นแหละ)
ซูซุมูระ ยู: อืมม... เธอก็อ่านงานแบบนี้ด้วยเหรอ น่าสนใจจังเลยนะ...
ผู้จัดการ: ...! ตกใจหมดเลย... รุ่นพี่ซูซุมูระครับ อย่าแอบมองจากด้านหลังแบบนี้สิครับ
ซูซุมูระ ยู: ก็เธอดูจริงจังมากเลยนี่นา ถ้าขัดจังหวะก็คงไม่ดีใช่ไหมล่ะ? หรือว่า...
ซูซุมูระ ยู: อยากเห็นหน้าฉันจากด้านหน้าหรือ? ฉันไม่ว่าหรอกนะ? ฉันเองก็อยากจะสังเกตใบหน้าจริงจังของรุ่นน้องน่ารักๆ อย่างละเอียดเหมือนกัน
ผู้จัดการ: สั-สังเกต... ไม่ใช่แบบนั้นครับ! แค่การแอบมองมันผิดมารยาทไม่ใช่เหรอครับ?
ซูซุมูระ ยู: อ๋า ถ้าเกิดกำลังอ่านการ์ตูนลามกที่ไม่อยากให้คนอื่นเห็น คงจะแย่เลยสินะ
ผู้จัดการ: ไม่-ไม่ใช่แบบนั้นครับ! โอ๊ย... พอเถอะ
ผู้จัดการ: (เธอคือซูซุมูระ ยู รุ่นพี่ที่อยู่ชั้นปีเดียวกันที่เพิ่งเข้ามาเป็นสมาชิกชมรมวรรณกรรมเมื่อต้นปีการศึกษานี้)
――ห้าเดือนก่อน มัธยมปลายชั้นปีที่ 2 เดือนเมษายน
ผู้จัดการ: (รุ่นพี่ที่ชอบอนิเมะและมังงะอยู่แล้ว พอย้ายโรงเรียนมาในเดือนเมษายนก็ได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับชมรมวรรณกรรมและมาที่ห้องชมรมอย่างรวดเร็ว)
ซูซุมูระ ยู: คือว่า... คุณเป็นสมาชิกชมรมวรรณกรรมใช่ไหมคะ? ฉันอยากสมัครเข้าชมรมน่ะค่ะ แต่ตอนนี้ไม่มีใครอยู่ในห้องเลย...
ผู้จัดการ: อ่า เอ่อ... มีสมาชิกคนอื่นด้วยนะครับ แต่ทุกคนเป็นสมาชิกที่ไม่มีตัวตน นอกจากผมแล้วคงไม่มีใครมาห้องชมรมหรอกครับ...
ซูซุมูระ ยู: งั้นเหรอคะ... แต่ก็ไม่เป็นไรค่ะ ฉันก็ยังอยากเข้าชมรมอยู่ดี ฉันชื่อซูซุมูระ ยูค่ะ
ผู้จัดการ: อ่า ครับ... ยินดีที่ได้รู้จักครับ ผมชื่อ <<ผู้จัดการ>> ครับ เอ่อ งั้น เข้ามาในห้องไหมครับ?
ผู้จัดการ: อ่า การ์ตูนกับไลท์โนเวลในนี้ส่วนใหญ่เป็นของส่วนตัวผมนะครับ... แต่ถ้าไม่ทำให้เสียหาย อ่านได้ตามสบายเลยครับ
ซูซุมูระ ยู: งั้นเหรอคะ ขอบคุณนะคะ แล้วนี่... ที่ต้องพูด อ่า ทุกครั้งที่เริ่มประโยค นั่นเป็นความเคยชินเหรอคะ?
ผู้จัดการ: ...! ความเคยชิน... อาจจะใช่ แต่ก็ไม่เห็นเป็นไรนี่ ถึงจะพูดออกมาก็เถอะ
ซูซุมูระ ยู: อ่า ไม่ใช่อย่างนั้นค่ะ ขอโทษนะคะ... ฉันเองก็เคยเป็นแบบนั้นมาก่อน เลยรู้สึกเข้าใจน่ะค่ะ...
ผู้จัดการ: ...งั้น เหรอครับ ไม่เป็นไรครับ ผมไม่ได้ใส่ใจอะไร... เชิญครับ
ผู้จัดการ: (พูดตามตรง ความประทับใจแรกที่มีต่อเธอไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ตอนนั้นรู้สึกว่าคุยด้วยยากนิดหน่อย... แต่ว่า)
ซูซุมูระ ยู: เอ่อ... การ์ตูนเล่มนี้ ไม่มีภาคต่อเหรอคะ? จบแบบน่าติดตามมากเลย...
ผู้จัดการ: อ่า ใช่ครับ... น่าจะมีเล่มใหม่ออกสัปดาห์หน้า รุ่นพี่ก็ติดการ์ตูนเรื่องนี้เหมือนกันเหรอครับ
ซูซุมูระ ยู: อื้ม... สนุกมากเลย! ไม่นึกเลยว่าตรงนี้ตัวเอกจะหันไปทางมืด... โอ้ย ใจเสียจัง...!
ผู้จัดการ: เข้าใจครับ เพราะเขามีความมุ่งมั่นที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง ถึงได้ยอมหันไปทางมืดเพื่อปกป้องเพื่อน... ตัวละครมีเอกลักษณ์มากเลยนะครับ
ซูซุมูระ ยู: ใช่ๆ นั่นแหละ! ยิ่งเข้าใจความรู้สึก อยากปกป้อง ของตัวเอกเท่าไหร่ ก็ยิ่งรู้สึกเศร้า...
ผู้จัดการ: แต่มีการวางเค้าโครงเรื่องการหันไปทางมืดไว้ตั้งแต่เล่มสองแล้วนะครับ ดูตรงนี้สิครับ...
ซูซุมูระ ยู: จริงเหรอ? ขอดูหน่อย...! ...อ้า จริงด้วย... เก็บรายละเอียดมาสิบเล่มกว่าจะปิดเรื่อง...
ผู้จัดการ: การวางโครงเรื่องน่าทึ่งมากเลยนะครับ ดีใจที่รุ่นพี่ชอบครับ
ซูซุมูระ ยู: อื้ม! ขอบคุณที่แนะนำนะ... ว่าแต่ เธอไม่พูด อ่า เลยนะ เวลาคุยเรื่องการ์ตูน
ผู้จัดการ: อุ... ยังจะพูดเรื่องนั้นอีกเหรอครับ? แล้วรุ่นพี่เองก็วันนี้พูดเยอะกว่าปกติ หรือจะเรียกว่าเป็นกันเองขึ้นก็ได้...
ซูซุมูระ ยู: ขอโทษๆ ล้อเล่นน่า! ก็แค่รู้สึกสนุกที่ได้คุยกันแบบนี้น่ะ
ซูซุมูระ ยู: ...แถมในที่สุดเธอก็มองหน้าฉันคุยด้วยแล้ว ฉันดีใจนะ
ผู้จัดการ: ...ก็นะ ผมก็ดีใจ... ที่เราได้คุยเรื่องที่ชอบเหมือนๆ กัน...
ซูซุมูระ ยู: ...ฮิฮิ ดีจังเลยนะ ต่อไปก็ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ คุณผู้จัดการ
ซูซุมูระ ยู: …ถึงจะพูดแบบนั้นไปก็ลำบากใจสินะ แต่ก็นะ ในชมรมที่มีแค่เราสองคนแบบนี้ ถ้าต่อจากนี้จะยังเข้ากันได้ดีเหมือนเดิม ฉันก็ดีใจนะ
ผู้จัดการ: ...…ผมจะพยายามนะครับ …ไม่ได้รู้สึกไม่ชอบอะไรหรอก…
ผู้จัดการ: (ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ความสัมพันธ์ของผมกับรุ่นพี่ซูซุมูระ กลายเป็นได้คุยกันสนุกสนานเรื่องการ์ตูนในห้องชมรมทุกวัน และตอนนี้...)
ซูซุมูระ ยู: โฮ่~ ทำไมตั้งแต่เมื่อกี้ทำหน้าเหมือน 'กำลังจมอยู่ในโลกแห่งจินตนาการ~' ล่ะ?
ผู้จัดการ: เอ๊ะ?... ว้า หน้าใกล้เกินไปแล้ว! ทำ-ทำอะไรกันเนี่ยจู่ๆ!
ซูซุมูระ ยู: ก็เห็นท่าทางเคลิ้มฝันไม่ระวังตัวเกินไป เลยอดแกล้งไม่ได้น่ะ
ผู้จัดการ: (ถึงจะบอกว่าเป็นความสัมพันธ์ที่สนุกสนาน แต่ส่วนใหญ่ก็แค่รุ่นพี่คอยแกล้งผมเล่นเท่านั้นแหละ...)
โคจิมะ คานะ: ขอตัวด้วยค่ะ~ ยูอยู่ใช่ไหม? มารับแล้วนะ
ซูซุมูระ ยู: อ้า คานะซัง เหนื่อยไหมคะ... เอ๊ะ นี่มันเวลานั้นแล้วเหรอ?
โคจิมะ คานะ: ใช่แล้วสิ ทุกทีๆ เลยนะ มาฆ่าเวลาอยู่ในที่อับชื้นแบบนี้ได้ยังไงนะ
ซูซุมูระ ยู: ไม่ใช่กลิ่นอับหรอกค่ะ มันเป็นกลิ่นหนังสือต่างหาก เป็นกลิ่นที่ดีนะคะ?
โคจิมะ คานะ: ไม่เห็นเข้าใจเลย คงมีแค่ยูกับผู้จัดการนี่แหละที่เข้าใจได้
ผู้จัดการ: (เธอคือรุ่นพี่โคจิมะ เพื่อนร่วมชั้นของรุ่นพี่ซูซุมูระ เป็นนักแสดงสาวมัธยมที่มีชื่อเสียงในสังคม และเป็นเหมือนคนที่อยู่สูงเกินเอื้อมในโรงเรียนนี้)
โคจิมะ คานะ: แถมอยู่กันสองต่อสองในห้องแคบๆ ฆ่าเวลาแบบนี้... จริงๆ แล้วคงคิดอะไรลามกอยู่สินะ ไอ้นี่?
ผู้จัดการ: เอ๊ะ!? ไม่... ไม่ใช่ครับ ผมไม่ได้...
ซูซุมูระ ยู: ใช่แล้วค่ะ! เขาไม่ใช่คนแบบนั้นหรอก... อ๊ะ แต่ คิดบ้างรึเปล่านะ? อี๊~ จะทำยังไงดี~ หัวใจเต้นแรงเลย~
ผู้จัดการ: รุ่น-รุ่นพี่ครับ...! มันไม่ใช่เรื่องล้อเล่นนะครับ
ซูซุมูระ ยู: อี๊~? งั้นแสดงว่าไม่มีใจให้เลยเหรอ? ยูโดนปฏิเสธแล้ว... เศร้าจังงงงง...[1]
โน๊ตจากผู้แปล:
[1] ในที่นี้ยูใช้คำว่า しょぼぼん (โชโบโบน) ซึ่งเป็นคำแสดงอารมณ์เศร้าแบบการ์ตูนยุคเก่า มักจะมีภาพตัวละครหน้าเศร้าพร้อมเส้นๆ แนวตั้งแสดงความหดหู่ประกอบ เป็นการแสดงอารมณ์แบบเกินจริงเชิงตลกที่นิยมในการ์ตูนญี่ปุ่นยุค 70-80
ผู้จัดการ: ที่-ที่จริงไม่ได้ตั้งใจจะแบบนั้นครับ... ถ้ามีใครแอบฟังแล้วไปรายงานอาจารย์ที่ปรึกษา แย่สุดชมรมอาจถูกยุบได้นะครับ...
ซูซุมูระ ยู: อ๋า~ นี่มันฉากคลาสสิกในการ์ตูนรักโรแมนติกเลยนะ ตัวประกอบแอบได้ยินแล้วเข้าใจผิด จริงด้วย ถ้าพลั้งปากไปอาจจะแย่...
โคจิมะ คานะ: ไม่ๆ จะมีคนแบบนั้นในชีวิตจริงเหรอ? พวกเธอสองคนอ่านการ์ตูนมากไปแล้วล่ะ... แล้วก็นี่! ไปกันเถอะยู
ผู้จัดการ: คำว่าโชโบโบนนี่มันเชยไปแล้วไม่ใช่เหรอครับ... เหมือนท่าทางในการ์ตูนยุคโชวะเลย
ซูซุมูระ ยู: ใจร้าย! การ์ตูนยุคโชวะก็มีแต่ผลงานระดับตำนานนะ? อย่ามาดูถูกว่าเก่าสิ~!
โคจิมะ คานะ: เฮ้ย ไม่ใช่เรื่องการ์ตูนหรอก พูดถึงว่าท่าทางของเธอมันเชยต่างหาก! แล้วก็... นี่ ไปกันเถอะยู
ซูซุมูระ ยู: ค่า~ งั้นคุณผู้จัดการ เจอกันพรุ่งนี้นะ บ๊ายบาย~
ผู้จัดการ: ครับ เหนื่อยนะครับ... ฮึ่ว เงียบลงแล้วสินะ
ผู้จัดการ: (ไม่นึกเลยว่าผมที่เป็นแค่โอตาคุธรรมดาๆ จะได้มาคุยกับรุ่นพี่ซูซุมูระกับรุ่นพี่โคจิมะอย่างปกติแบบนี้... ถึงจะโดนแกล้งบ่อยก็เถอะ)
ผู้จัดการ: (แถมรุ่นพี่โคจิมะก็เป็นนักแสดงที่มีชื่อเสียงในสังคม ปกติคงไม่มีโอกาสได้เจอกันเลย... เอ๊ะ?)
ผู้จัดการ: พูดถึง... ทำไมรุ่นพี่ซูซุมูระถึงอยู่กับรุ่นพี่โคจิมะด้วยกันตลอดเลยนะ?